thติดต่อเรา (02) 800-2630
thติดต่อเรา (02) 800-2630

บทบาทของศาสนาในการแก้ปัญหาจริยธรรมที่เกิดจากการใช้ AI โดย ผศ.ดร.ไพเราะ มากเจริญ

บทบาทของศาสนาในการแก้ปัญหาจริยธรรมที่เกิดจากการใช้ AI

โดย ผศ.ดร.ไพเราะ มากเจริญ

ศาสนาและจริยธรรมเป็นสองแนวคิดที่เชื่อมโยงกันมานานหลายศตวรรษ ในขณะที่บางคนเชื่อว่าศาสนาเป็นรากฐานของจริยธรรม แต่ก็ยังมีผู้เห็นแย้งว่าจริยธรรมสามารถมีพื้นฐานอยู่บนสมมติฐานแบบมนุษยนิยม แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ศาสนาและจริยธรรมมีความเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก และเมื่อปัจจุบัน การพัฒนาและการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้เกิดข้อกังวลและความท้าทายด้านจริยธรรมสำหรับบุคคลและสังคม แม้ว่าจะมีกรอบทางกฎหมายและข้อบังคับในการควบคุมการใช้ AI แต่แน่นอนว่า การสร้างกรอบกฎหมายขึ้นมาควบคุม ย่อมมีรากฐานมาจากมุมมองเชิงจริยธรรมในสังคมเป็นหลัก ดังนั้น การที่ศาสนาและจริยธรรมเป็นนแวคิดที่เชื่อมโยงกัน บทความนี้จึงจะขอกล่าวถึงศาสนาในแง่ของการให้คำแนะนำที่มีคุณค่าสำหรับการจัดการประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI และตรวจสอบว่าศาสนาสามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดเรื่องจริยธรรมของ AI ได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่การคำสอนและค่านิยมทางศาสนาไปใช้เพื่อจัดการกับความท้าทายเหล่านี้
.
สำหรับบทบาทของศาสนาในการแก้ปัญหาจริยธรรมที่เกิดจากการใช้ AI ในอนาคตนั้น มีได้หลายแง่ดังนี้
.
1. การแนะนำด้านศีลธรรม โดยหลักการทางศาสนาสามารถชี้แนะบุคคลและสังคมในการตัดสินใจด้านจริยธรรมเกี่ยวกับการพัฒนาและการใช้ AI เนื่องจากศาสนามีความความเกี่ยวข้องและขณะเดียวกันก็ถูกพัฒนามาตามยุคสมัย ทำให้หลักการทางจริยธรรมทางศาสนาสามารถรับประกันได้ระดับหนึ่งว่า AI สอดคล้องกับค่านิยมทางจริยธรรมและไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลหรือสังคม
.
2. ศักดิ์ศรีและสิทธิของมนุษย์ ศาสนาหลายศาสนาเน้นย้ำถึงศักดิ์ศรีและสิทธิของมนุษย์ทุกคน ซึ่งแนวคิดนี้สามารถนำไปใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติต่อบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากระบบ AI อย่างมีจริยธรรม เช่น การจัดการกับอคติและการเลือกปฏิบัติ โดยไม่ว่าใครที่ได้รับผลประทบจาก AI ก็ควรจะถูกรับฟังและให้การช่วยเหลือ
.
3. ความรับผิดชอบ คำสอนทางศาสนาเน้นความรับผิดชอบส่วนบุคคลและส่วนรวมที่เกิดจากการกระทำของตน ซึ่งสิ่งนี้สามารถนำไปใช้กับนักพัฒนา ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ใช้ระบบ AI โดยเน้นความรับผิดชอบทางจริยธรรม ที่ตนเองจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และนำไปสู่การวางระบบทางกฎหมายต่อไป
.
4. การเอาใจเขามาใส่ใจเราและความเมตตา คำสอนทางศาสนา เช่น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความเมตตา การเอาใจใส่ต่อผู้อื่น ฯลฯ หากนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการคิด ออกแบบและการปรับใช้เทคโนโลยี AI คำสอนเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบ AI จะถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และไม่เป็นอันตรายต่อประชากรกลุ่มเปราะบาง หรือไม่นำมาใช้เพื่อสร้างผลร้ายต่อกลุ่มคนที่อาจจะมีโอกาสด้อยกว่า ในการเข้าถึงเทคโนโลยี
.
5. ความยุติธรรมและความเสมอภาค ในบริบทที่ AI อาจทำให้ความไม่เท่าเทียมทางสังคมรุนแรงขึ้น แนวคิดทางศาสนาจะเป็นรากฐานสำคัญในการสนับสนุนความยุติธรรมและความเสมอภาค โดยผู้นำศาสนาและชุมชนสามารถสนับสนุนระบบ AI ที่ยุติธรรมและเป็นกลางต่อคนทุกกลุ่มได้
.
6. การพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม โดยองค์กรและสถาบันทางศาสนาสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับนักพัฒนา AI นักวิจัย และผู้กำหนดนโยบาย เพื่อให้แน่ใจว่าการพิจารณาด้านจริยธรรมจะถูกรวมเข้ากับกระบวนการพัฒนา AI อย่างหมาะสม
.
7. การศึกษาและการตระหนักรู้ ศาสนาสามารถช่วยสร้างการตระหนักรู้และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้าน AI ที่มีจริยธรรมในกลุ่มศาสนกชนของตนได้ โดยสนับสนุนและเปิดโอกาสให้มีการอภิปราย ถกเถียงเพื่อหาจุดร่วม หาคำอธิบายและสร้างความเข้าใจ ในเรื่องจริยธรรมของ AI ได้
.
8. การสนับสนุนและอิทธิพลทางสังคม แน่นอนว่า ผู้นำศาสนาและสถาบันศาสนาต่างๆ สามารถเรียกร้องและช่วยเลหือในการวางรากฐานทางจริยธรรมสำหรับการพัฒนาและการสนับสนุนการใช้ AI อย่างรับผิดชอบและการใช้งานในวงกว้างอย่างมีคุณธรรม
.
9. การเปิดพื้นที่ในการร่วมถกเถียงหาทางออกระหว่างศาสนา เพื่อรวบรวมมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับจริยธรรมของ AI โดยการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันศาสนาต่างๆ จะสามารถนำไปสู่แนวทางที่ครอบคลุมและครอบคลุมมากขึ้นในการจัดการกับความท้าทายทางจริยธรรมเหล่านี้
.
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า ศาสนาสามารถให้คำแนะนำอันมีคุณค่าในการจัดการกับความท้าทายด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลของศาสนาในการแก้ไขปัญหาความท้าทายเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับว่าคำสอนและค่านิยมทางศาสนาถูกบูรณาการเข้ากับกรอบจริยธรรมและกระบวนการตัดสินใจของบุคคลและสังคมได้ดีเพียงใด แม้ว่าศาสนาควรเป็นหนึ่งในเสียงที่มีส่วนสำหรับการปภิปรายในวงกว้างเกี่ยวกับจริยธรรมของ AI ก็ตาม
.
แต่สิ่งสำคัญคือต้องรับทราบว่าศาสนาต่างๆ มีความเชื่อและการตีความเกี่ยวกับจริยธรรมที่แตกต่างกันบ้างในบางมิติ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึการตีความปัญหาเชิงจริยธรรมเกี่ยวกับ AI ด้วย นอกจากนี้ในสังคมทั่วไป การตัดสินใจด้านจริยธรรมเกี่ยวกับ AI มักทำโดยไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาทางศาสนา ดังนั้นการหาจุดร่วม โดยการผสมผสานหลักการและคำสอนทางศาสนาในการอภิปรายเกี่ยวกับจริยธรรมของ AI ก็จะสามารถนำไปสู่แนวทางที่ครอบคลุมและครอบคลุมมากขึ้นในการจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ในอนาคต